เมื่อพูดถึงเพลงหรือดนตรี
เราก็ปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะว่าในชีวิตประจำวันของเรานั้นต้องได้ยินเสียงเพลงตั้งเเต่เช้าจรดเย็นหรือเเม้กระทั่งอาจจะถึงตอนนอนไปเลยก็ได้ พูดได้ว่าเช้ามาอย่างน้อยก็ต้องได้ยินเพลงชาติ
หรือเพลงจากโฆษณาในโทรทัศน์ หรือเพลงจากสถานที่ต่างๆใช่ไหมคะ
หรือเเม้กระทั่งเวลาที่เราเดินทางไปเรียน ไปทำงาน ทำกิจกรรมต่างๆ เราก็จะเห็นได้ว่าเพลงมีผลกับความ รู้สึกเเละการทำกิจกรรมทุกๆอย่างของคนเราค่ะ
ในโทรศัพท์มือถือ
หรืออุปกรณ์ที่ใช้ฟังเพลงต่างๆของเเต่ละคนก็จะมีประเภทของเพลงเเตกต่างกันออกไปตามความชอบของเเต่ละคน
มาดูกันดีกว่าว่าไฟล์เพลงในเครื่องของเรามีเพลงประเภทไหนกันบ้าง?
1.POP - แนวเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกร่าเริง สดใส มันจะรู้สึก ป๊อบๆ
ข้างใน ซึ่งจะไม่ค่อยจำกัดเครื่องดนตรีที่ใช้ซักเท่าไหร่นัก
เพลง ระหว่างเราสองคน - เอ๊ะ จิรากร
ก็ได้ ข้อเปรียบเทียบระหว่างร่าเริงแบบ POP กับ JAZZ คือ Pop นั้น
จะร่าเริงในอิมเมจกระโดดโลดเต้น รอยยิ้มสดใส แต่ Jazz จะมีอิมเมจ
เป็นร่าเริงแบบ สุขุมนุ่มลึก รอยยิ้มที่ยิ้มแบบเล็กๆมีความสุข
teach me tonight - Dinah Washington
3.TECHNO - แนวนี้มักจะค่อนข้างได้ยินตามเทคทั้งหลาย Techno
จะเป็นแนวเพลงที่ฟังแล้ว จะรู้สึก อยากลุกขึ้นไปเต้นไปดิ้นไป ด้วย
จังหวะที่หนักแน่นของเสียงทุ้มดังๆ เครื่องดนตรีที่ใช้มักจะเป็น
Sound Effect เสียส่วนใหญ่
Shake It Up -
Afterparty
4.HIP-HOP - Hip-Hop เองก็เน้นด้วยการทำให้คนรู้สึกอยากลุกขึ้น
มาเต้นเหมือนกัน แต่จะไม่เท่า Techno เพราะ Hip-Hop ฟังแล้วเข้า
ถึงอารมณ์จริงๆ ก็จะแค่ขยับแขนขาตามจังหวะนิดหน่อยเท่านั้น
Hip-Hop มักจะใช้ Sound Effect เป็นเครื่องดนตรี แต่สิ่งที่
Hip-Hop เน้นจริงๆคือ น้ำเสียงและการร้องของตัวนักร้องเอง ที่จะ
ร้องเป็นจังหวะ และใช้คำที่สัมผัสกันเป็นเนื้อร้อง
ข้อเปรียบเทียบระหว่าง TECHNO กับ HIP-HOP คือ Techno จะค่อน
ข้างหนักกว่า Hip-Hop และไปเน้น คนร้องเท่า Hip-Hop
Eminem - Rap God (Explicit)
5. R&B (Rythm & BluSOUL / R&B - Soules) คือแนวเพลงที่เน้น
ที่เนื้อร้องแนว ความรักซึ้งๆ กับการเล่นกับจังหวะที่พอดีกัน ดนตรีจะ
ค่อนข้างไปทางสดใสหน่อย แต่ยังไม่สดใสเท่ากับ Pop ส่วนด้าน
เครื่องดนตรีก็จะไม่ค่อยจำกัดแนว แต่มักจะใช้ Sound Effect
ประกอบนิดหน่อย
Don't think they know - Chris Brown
6.Ballad - เป็นอีกแนวที่เล่นที่น้ำเสียงของคนร้องกับเนื้อที่จะออก
แนวรักซึ้งๆ ซึ่ง่ค่อนข้างจะซึ้งกว่า Soul/R&B ดนตรี จะใช้จังหวะที่ช้า
มาก ค่อยๆเป้นค่อยๆไป (อาจจะมีเร็วบ้าง แต่ไม่เร็วมาก ซึ่ง Ballad
แบบเร็วนั้นจะค่อนข้างหายากนิดนึง) อิมเมจของ Ballad คือ ผู้หญิง
วัยแรกเริ่มมีความรัก เครื่องดนตรี ก็ไม่จำกัดแนวเช่นกัน และมี
Sound Effect ประกอบบ้างข้อเปรียบเทียบระหว่าง Soul/R&B กับ
Ballad คือ S/R&B จะเร็วกว่าและมีอิมเมจที่เน้นด้านความรัก
ส่วน Ballad จะช้ากว่ามาก อิมเมจก็จะเป้นเด็กผู้หญิงที่มีความรักครั้ง
แรก
A Thousand Years - Christina Perri
7.ROCK - แนวนี้เป็นแนวที่แพร่หลายออกไปค่อนข้างมาก และยังมี
การแตกแขนงออกเป็น Sub Culture ต่างๆ มากกว่าแนวเพลงอื่นๆ
Rock จะเป็นแนวเพลงที่ฟังแล้วเร้าใจ ตื่นเต้น เท่ ร้อนแรง มีลักษณะ
ที่เหมือนจะขยับไปขยับมาตลอดเวลา Rock ไม่จำเป็นจะต้องใช้
จังหวะที่หนักหน่วงหรือเร็วๆ แต่แค่ฟังแล้วรู้สึกตื่นเต้นหรือเร้าใจก็
เพียงพอแล้ว อย่างที่พวกฝรั่งเวลาทำอะไรที่ตื่นเต้นเค้าก็จะตะโกน
ว่า "It's Rock me!!!" (สังเกตได้จากสมัยก่อน พวกวง Queen หรือ
Deep Purple ถึงแม้เค้าจะไม่ได้เล่นดนตรีที่หนักหน่วง หนำซ้ำ บาง
เพลงออกจะช้าด้วยซ้ำ แต่ทั้งพวกเค้าและผู้ฟังก็บอกว่ามัน Rock)
drunk enough - angle fall
ได้รู้เกี่ยวกับประเภทต่างๆของเพลงเเล้วก็อย่าลืมไปหาฟังกันนะคะ อาจจะติดใจเพลงประเภทนั้นๆไป
เลยก็ได้ :)
ขอบคุณข้อมล : http://www.oknation.net/blog/piwfreedom/2013/12/03/entry-15
: http://onewingedangel.exteen.com/20070520/entry-1
จัดทำโดย : ด.ญ.นวณรร พันธ์ทอง ม.2/7 เลขที่ 28